การฟื้นฟูสหภาพโซเวียตครั้งที่หนึ่ง
การฟื้นฟูสหภาพโซเวียตครั้งที่หนึ่ง | |
---|---|
ส่วนหนึ่งของ สงครามเอเชยตะวันหอกครั้งที่สอง | |
![]() สถานที่ๆสามกองทัพร่วมสาบาน | |
| |
| |
| |
ผู้ร่วมรบ | |
![]() |
|
ผู้บัญชาเกรียน | |
![]() |
|
กำลัง | |
กำลังพล 615,520 คน รถถัง 7,150 คัน |
กำลังพล 790,300 คน รถถัง 10,320 คัน |
ความสูญเสีย | |
เสียกำลังพล 357,400 คน รถถังพัง 2,500 คัน |
เสียกำลังพล 532,000 คน รถถังพัง 6,100 คัน
|
เวิลด์เทรด - มอสโค1 - นิวหอร์ก1 - การปะทะกันของชินคอร์ป-โซเวียต - แคลิฟอเนียร์ - เคียฟ - อ่าวเพ้อเซี่ย - การฟื้นฟูสหภาพโซเวียตครั้งที่หนึ่ง - อุรุมฌี - มอสโค2 - การบุกแมนจูเรียของยูริ - การบุกเกาเหลาของยูริ - ต้าเหลียน - การบุกจงหยวนของยูริ - ลกเอี๋ยง - เจียงตง - การบุกจักรวรรดิยูริของฝ่ายคอมมิวนิสต์ - เทียนสิน - การบุกศาสนจักรไอดอลนาลีสท์ของยูริ - เกาะกวม - ฮาวาย - ซานฟรานซิสโก - ลอสแองเจลิส - ซีแอตเทิล - โอรีกอน - ลาสเวกัส - มิสซิซิปปี - นิวฟันด์แลนด์ - นิวหอร์ก2 - การล่มสลายของสหรัฐอมาริเกย์ - ยูริเข้ายึดครองอเมริกร๊วกเหนือ - เตโอติอัวกัน - ปาเลงเก - การฟื้นฟูสหภาพโซเวียตครั้งที่สอง - โรมังงะเข้ายึดครองแอฟริกวนเหนือ - โรมังงะเข้ายึดครองตะวันออกกลาง - การล่มสลายของสหภาพโซเวียต - การล่มสลายของจักรวรรดิโรมังงะ - ดานัง
การฟื้นฟูสหภาพโซเวียตครั้งที่หนึ่งเกิดจากความไม่พอใจในสนธิสัญญาโง่ดักดาน เพราะมันแสดงให้เห็นว่าสหภาพโซเวียตเป็นเมืองขึ้นของจักรวรรดิยูริ อเล็กซานเดอร์ โรมานอฟจึงไปหาทัวป๋ากุ้ยให้ไปเชิญหูจินเทามาเจรจาด้วย เกิดสนธิสัญญาซินเจียง สามชาติจึงรวมพลังกันเพื่อที่จะบุกจักรวรรดิยูริ ฟื้นฟูสหภาพโซเวียต จนสุดท้ายก็สามารถฟื้นฟูสหภาพโซเวียตได้สำเร็จ
สารบัญ
ต้นเหตุแห่งสงคราม[แก้ไข]
การเขียนสนธิสัญญาโง่ดักดานที่เข้าข้างตัวเองอย่างหนักของจักรวรรดิยูริ ทำให้สหภาพโซเวียตไม่พอใจอย่างมาก เกิดการละเมิดสนธิสัญญาโง่ดักดานตามมา อเล็กซานเดอร์ โรมานอฟรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงไปหาทัวป๋ากุ้ยเพื่อให้ไปติดต่อหูจินเทาให้ เพื่อที่จะเขียนสนธิสัญญาที่คัดค้านสนธิสัญญาโง่ดักดาน สนธิสัญญาซินเจียงจึงบังเกิดขึ้น
ผลลัพท์ของสนธิสัญญาซินเจียง[แก้ไข]
เกิดขึ้นทันทีที่เขียนเสร็จ ทั้งสามประเทศ และผองเพื่อนต่างก็ดีใจมากที่สามารถตบเกรียนยูริ พลังจิตได้สำเร็จ อเล็กซานเดอร์ โรมานอฟถึงกับกล่าวว่า
![]() |
สนธิสัญญานี้คือสันติภาพ | ![]() |
อเล็กซานเดอร์ โรมานอฟ |
ประเทศต่างๆที่ร่วมลงนามจึงเริ่มฝึกทเห่อ ด้วยวิธีต่างๆ จนกระทั่งมีความเข้มแข็งเกรียงไกรมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อถึงวันเวลาที่เตี๊ยมกำหนดกันไว้ ประเทศจีน สหภาพโซเวียต และสมาพันธ์ชนเผ่าเร่ร่อนจึงเคลื่อนกองทัพไปยังอนุสาวรีย์ของจักรพรรดิติมูร์
การเคลื่อนทัพของฝ่ายคอมมิวนิสต์[แก้ไข]
ไม่นานนักกองทัพสหภาพโซเวียต จีน และสมาพันธ์ชนเผ่าเร่ร่อนก็มารวมตัวกันที่หน้าอนุสาวรีย์ของจักรพรรดิติมูร์ แล้วขอพรจากติมูร์ว่าให้ประสบชัยชนะ กองทัพแยกกันที่อัลมาตี โดยมีแผนว่า ให้ทัพโซเวียตเข้าโจมตีทางเหนือของทะเลสาบแคสเปียน ชาวเร่ร่อนโจมตีชายแดนทางด้านใต้ของจักรวรรดิยูริ ทัพจีนโจมตีพื้นที่เหนือทะเลทรายโกบี ชาวบ้านที่คอเคซัสเมื่อเห็นทัพโซเวียตก็ดีใจเข้ามาสมัครเป็นทเห่ออย่างล้นหลาม จนกองทัพพันธมิตร3ชาติ โซเวียต-จีน-ชนเผ่าเร่ร่อนมีกำลังเสริมมาถึงกว่า300,000คน
การยึดกรุงมอสโค[แก้ไข]
เมื่อมีผู้มาสมัครเป็นทเห่อเป็นจำนวนมาก ทัพโซเวียตจึงบุกไปถึงมอสโค ไม่ว่าจะถูกทัพยูริจัดการอย่างไรก็ไม่สามารถยุติปณิธานอันมุ่งมั่นที่ฟื้นสหภาพโซเวียตได้ โชคร้ายที่ยูริ พลังจิตอยู่ที่มอสโค เห็นทัพโซเวียตจึงให้ยูริโคลนไปสะกดจิต แต่ก็ไม่สามารถสะกดจิตได้ ต่อมาชาวเร่ร่อนเข้ามาสมทบ แล้วชาวจีนก็เข้ามาสมทบที่มอสโคนี่เอง ทัวป๋ากุ้ยได้นำทรายมาถมกำแพงเมือง แล้วทำให้ทั้งกองทัพบุกเข้าไปในเมืองได้ ชาวรัสเซียเห็นทัพโซเวียตก็เข้ามาสมทบอีก
และแล้ว ทัพใหญ่ของคอมมิวนิสต์ก็บุกไปถึงเคลมลิน ยูริจึงรีบหนีออกนอกเมือง ทัพคอมมิวนิสต์จึงยึดเมืองได้สำเร็จ หลังจากนั้นอเล็กซานเดอร์ โรมานอฟก็ได้สั่งให้ทเห่อติดตั้งระบบลูกไฟไว้ที่กำแพงเมือง เมื่อเห็นทัพยูริจะปล่อยลูกไฟทันที เพื่อป้องกันเมืองจากจักรวรรดิยูริที่ยังเข้มแข็งอยู่
การประกาศชัยชนะที่กรุงมอสโค[แก้ไข]
อเล็กซานเดอร์ โรมานอฟ,ทัวป๋ากุ้ย และแม่ทัพนายกองของจีน จึงประกาศชัยชนะที่เคลมลินว่า
![]() |
พวกเราชาวคอมมิวนิสต์ได้ล้างแค้นไอ้ยูริ พลังจิตสำเร็จแล้ว ขอให้ทุกท่านจงโชคดีมีชัยไปตลอด ไม่ว่าชัยชนะครั้งนี้จะอยู่นานเท่าใด ขอให้ท่านเตรียมรับการปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์จากพวกเราตามเดิมด้วยเถิด | ![]() |
ประชาชนต่างโห่ร้องด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง สหภาพโซเวียตของพวกเขาฟื้นแล้ว ประชาชนรอคอยอเล็กซานเดอร์ โรมานอฟให้มาบริหารประเทศนานแล้ว ประชาชนจึงตอบรับการปกครองของโรมานอฟโดยพร้อมหน้ากัน
หลังสงคราม[แก้ไข]
ชาวเร่ร่อนได้ตีเมืองที่อยู่ระหว่างเคียฟกับมอสโคให้กับโซเวียต สหภาพโซเวียตกลับมาเรืองอำนาจอีกครั้ง ส่วนจักรวรรดิยูริก็เหลือดินแดนแค่ไซบีเรียตะวันออกเฉียงเหนือเท่านั้น สมาพันธ์ชนเผ่าเร่ร่อนเรืองอำนาจสูงสุด จีนสามารถครองเมืองวลาดิวอลสตอคได้ สามประเทศนี้ยิ่งใหญ่มากในช่วงเวลานั้น แต่ก็เกิดความหายนะกับกองทัพสมาพันธ์ชนเผ่าเร่ร่อนคือทเห่อได้เสพสุขมากจนเกินไป เมื่อจักรวรรดิยูริฟื้นคืนชีพอีกครั้งก็ทำให้สมาพันธ์ชนเผ่าเร่ร่อนเสียพื้นที่ไปถึงกว่า15ล้านตารางกิโลเมตร
สงครามครั้งต่อไป[แก้ไข]
ดูบทความหลักที่ยุทธการอุรุมฌี และยุทธการมอสโค (สงครามเอเชยตะวันออกครั้งที่สอง)
แต่หลังจากนั้นเพียง45วัน อูรุมฌีก็ถูกจักรวรรดิยูริตีแตก ยูริขยายอำนาจอย่างรวดเร็วจนกระทั่งไซบีเรียตกเป็นของจักรวรรดิยูริ 30วันหลังจากนั้น ผลงานที่งดงามของคอมมิวนิสต์ทั้งหมดก็ถูกทำลายเมื่อมอสโคแตก ทัวป๋ากุ้ยจึงรีบนำทัพมาสู้ศึกที่อูรุมฌีจนตีคืนได้ จีนจึงมอบอูรุมฌีเป็นเมืองหลวงของสมาพันธ์ชนเผ่าเร่ร่อน ส่วนโซเวียตก็กลับสู่สภาพที่แย่ดังเดิม เมืองหลวงของสหภาพโซเวียตก็กลับไปอยู่ที่กรุงเคียฟเหมือนเดิม แต่การละเมิดสนธิสัญญาโง่ดักดานก็ยังคงดำเนินต่อไปจนกระทั่งสนธิสัญญาต่อต้านความงี่เง่าได้ถูกเขียนออกมา และจักรวรรดิยูริถูกบดขยี้จนแทบจะล่มสลายในการบุกจักรวรรดิยูริของฝ่ายคอมมิวนิสต์