สงครามอเมริกร๊วกครั้งที่สอง
สงครามอเมริกร๊วกครั้งที่สอง | ||
---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ สงครามโลกครั้งที่สาม | ||
![]() เตโอติอัวกัน ที่มั่นสุดท้ายของเรดซันในอเมริกาเหนือ | ||
| ||
| ||
| ||
ผู้ร่วมรบ | ||
![]() |
![]()
|
![]() |
ผู้บัญชาเกรียน | ||
![]()
|
![]() |
![]()
|
กำลัง | ||
อากาศยาน 50,000 ลำ
เรือรบ 46,000 ลำ รถถัง 120 คัน กำลังพล 9,682,000 คน |
อากาศยาน 48,000 ลำ
เรือรบ 65,000 ลำ รถถัง 80 คัน กำลังพล 10,651,000 คน |
[รอการเพิ่มเติมข้อมูล] |
ความสูญเสีย | ||
อากาศยานพัง 35,671 ลำ
เรือรบพัง 31,500 ลำ รถถังพัง 70 คัน เสียกำลังพล 5,431,500 คน |
อากาศยานพัง 32,550 ลำ
เรือรบพัง 41,880 ลำ รถถังพัง 63 คัน เสียกำลังพล 6,120,000 คน |
เสียกำลังพล 267,370 คน |
ตอนที่อมาริเกย์ใกล้แพ้ เกาเหลาและยุ่นปี่ก็เป็นกลางอีกครั้ง |
- สงครามเวิลด์เทรด(สงครามอเมริกร๊วกครั้งที่หนึ่ง)
- สงครามทะเลทับขี้
- สงครามเอเชยตะวันออกครั้งที่สอง
- สงครามล้มยูหลบ
- สงครามอเมริกร๊วกครั้งที่สอง
- สงครามอ่าวเพิร์ล ฮาเบอร์
- Nirvana Force(สงครามไอดอลนาลีสท์ครั้งที่สาม)
- กรณีเด็กเดน
- สงครามกลางเมืองเทย
- สงครามไอดอลนาลีสท์ครั้งที่หนึ่ง
- สงครามไอดอลนาลีสท์ครั้งที่สอง
สงครามอเมริกร๊วกครั้งที่สอง เป็นสงครามที่เกิดขึ้นในทวีปอเมริกร๊วกเหนือเป็นส่วนใหญ่ เกิดจากการที่โซเวียต อยากแก้หน้าหลังของตระกูลโรมานอฟสงครามเวิลด์เทรดที่ไม่สามารถยึดอมาริเกย์ได้ ประกอบกับความไม่ไว้วางใจสหรัฐอมาริเกย์ของจักรวรรดิยูริ สงครามครั้งนี้เป็นสงครามที่ทั้งสองฝ่ายทุ่มกำลังมากมายที่สุดในสงครามโลกครั้งที่สาม จนกลายเป็นสงครามที่รุนแรงที่สุด รุนแรงมากจนอมาริเกย์ล่มสลายเพราะสงครามนี้ สงครามนี้เป็นสงครามที่ใช้ทัพเรือมากที่สุดด้วย สงครามนี้ลุกลามจนกระทบกระทั่งกับแม็กซิโกของเรดซัน ที่ปกครองจากกรุงเตโอติอัวกันอย่างสงบสุข แบบว่าตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สามเริ่มต้นขึ้นก็แทบไม่รบกับใครเลย แต่ศึกนี้ก็ทำให้อาณานิคมแห่งนี้ล่มสลายด้วยเช่นเดียวกัน สุดท้าย จักรวรรดิยูริก็ได้อมาริเกย์ไปแบบชุบมือเปิบ คือช่วงที่รบกันจะจบแล้วก็ส่งทเห่อเข้ามาล้างแค้นอมาริเกย์ที่ไม่ส่งทเห่อร่วมรบในสงครามเอเชยตะวันออกครั้งที่สอง แล้วตีอาณานิคมของประเทศอื่นๆแตกเกือบหมด ทำให้หลังจากสงครามนี้จบเพียงปีเดียว ทวีปอเมริกร๊วกเหนือทั้งทวีปก็อยู่ภายใต้การครอบครองของจักรวรรดิยูริแทบทั้งสิ้น
สารบัญ
ช่วงก่อนสงคราม[แก้ไข]
สหรัฐอมาริเกย์หลังสงครามเวิลด์เทรด[แก้ไข]
หลังจากสงครามเวิลด์เทรด สหรัฐอมาริเกย์ก็ก้าวสู่จุดเสื่อม เกิดปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้า ทำให้มีเงินบำรุงการทหารน้อยลง เงินในระบบเศรษฐกิจของอมาริเกย์น้อยจนกระทั่งต้องเอาโรมานอฟและตัวควบคุมอุณหภูมิที่มีอยู่ไปหลอมเป็นเงินมาใช้ การทำลายสุดยอดอาวุธเช่นนี้ทำให้กองทัพอมาริเกย์เริ่มสู้เขาได้ยากขึ้น เพราะประเทศอื่นมีการพัฒนาทางการทหารอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้จึงเป็นไปได้ว่าที่อมาริเกย์ไม่ส่งทเห่อไปช่วยจักรวรรดิยูริรบในสงครามเอเชยตะวันออกครั้งที่สองก็เพราะอมาริเกย์เสียแสนยานุภาพทางทหารไปเยอะจนไม่อาจทาบรัศมีจีนและจักรวรรดิเรดซันได้
ความเคลื่อนไหวของจักรวรรดิยูริ[แก้ไข]
การที่อมาริเกย์ไม่ส่งยุทโธปเกรียนและทเห่อไปช่วยยูริในสงครามเอเชยตะวันออกครั้งที่สอง ตามที่ระบุไว้ในสนธิสัญญาโง่ดักดานส่งผลให้จักรวรรดิยูริเริ่มไม่ไว้วางใจสหรัฐอย่างเห็นได้ชัด แต่อย่างไรก็ตาม ยูริก็ยังมีท่าทีจะส่งทเห่อปช่วยอมาริเกย์อยู่ ยูริ พลังจิตได้แถลงเกรียนถึงการส่งกำลังไปช่วยอมาริเกย์นี้โดยหารือกับบ้ารัก โอซาม่า โดยที่การหารือครั้งนี้เกี่ยวกับการส่งกำลังไปยังกรุงนิวหอร์ก โดยที่ไม่ใช่การบัญชาการสายตรงจากยูริ พลังจิต แต่ให้รัฐมนตรวยว่าการกระทรวงกะลาหักโหมบริหารงานนี้แทน เนื่องจากยูริยังมีงานที่ต้องสะสางอีก คือ สงครามล้มยูหลบ ที่กำลังเกิดในเวลานี้
บ้ารัก โอซาม่าได้ยอมรับการส่งกำลังจากจักรวรรดิยูริเข้าช่วยโดยใช้เส้นทางเดินเรือ "ทรานสแปซิฟิก" ทั้งนี้เพื่อหลบเลี่ยงรัศมีจากกองเรือของปางหญ้า ทำให้ยูริ พลังจิต น้ำลายไหลอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากยูริวางแผนไว้แล้วว่าหลังจากสงครามจบจะยึดครองดินแดนสหรัฐอมาริเกย์ใหญ่แทน ทั้งนี้ยูริได้เห็นว่าอมาริเกย์ต้องเป็นฝ่ายแพ้แน่นอนเนื่องจากเศรษฐกิจที่ตกต่ำและศักยภาพทางการทเห่อไม่สามารถสู้ฝ่ายโซเวียตได้ จักรวรรดิยูริจะทำทีส่งกำลังไปช่วยอมาริเกย์ แต่ความจริงเป็นทหารที่เพิ่งเกณฑ์ซึ่งมีประสบเกรียนน้อยจึงไม่สามารถช่วยเหลือกองทัพอมาริเกย์ได้มากนัก
อย่างไรก็ตาม มีเรื่องที่ยูริคิดว่าสำคัญกว่าการส่งกำลังไปช่วยอมาริเกย์เป็นไหนๆ คือการยึดครองเตโอติอัวกันซึ่งเป็นที่มั่นสุดท้ายของเรดซัน โดยที่ยูริไม่เป็นห่วงว่าเม็กซิโกเจ้าของเดิมของเตโอติอัวกัน จะเดือดร้อน เนื่องจากเม็กซิโกเดือดร้อนตั้งแต่ที่เรดซันยึดครองเมื่อ 13 ปีที่แล้ว(แต่เรดซันปกครองแบบใส่ใจประชาชน ประชาชนจึงค่อนข้างชื่นชอบ) ทำให้ยูริ พลังจิตได้แถลงการอีกรอบถึงการยกพลขึ้นเตโอติอัวกัน แถลงการนี้ได้รับการยอมรับจากกระทรวงกะลาหักโหมของยูริ ในที่สุดช่วงต้นสงคราม ยูริได้ส่งทเห่อจะนวนมากไปประจำการในเตโอติอัวกัน ส่งผลให้ดูเหมือนว่าจะเกิดความขัดแย้งระหว่างยูริและเรดซันทวีคูณยิ่งขึ้น
จักรวรรดิเรดซันกับสงครามในอเมริกร๊วก[แก้ไข]
จักรวรรดิเรดซันที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นเมื่อสามารถสร้างกองทัพที่แข็งแกร่งกับอาวุธที่แข็งแกร่งได้แล้วก็อยากแสดงแสนยานุภาพให้โลกได้ประจักษ์จึงก่อกบฏต่อประเทศเทยอย่างเงียบๆพร้อมกับยกกำลังเข้าเมืองหลวงเกรียนเทพมหานครอย่างแนบเนียนโดยการนั่งรถ บขส.เข้ามาเมื่อถึงเวลาที่นัดหมายไว้ทหารเรดซันก็สามารถปราบกองทัพเทยอย่างรวดเร็วจนหมด แล้วรวบอำนาจการปกครองไปยังเตโอเรดซันทั้งหมดหลังจากนั้นจึงค่อยๆพิชิตประเทศเพื่อนบ้านทีละประเทศจนกระทั่งสุดท้ายสามารถพิชิตลุ่มแม่น้ำจูเจียงได้ อำนาจของเรดซันจึงเพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัวเพราะมีการกระจายอิทธิพลไปยังเตโอติอัวกันด้วย ราวกับว่าหายนภัยมาเคาะประตูบ้านสหรัฐอมาริเกย์แล้ว บ้ารัก โอซาม่าจึงคิดจะสร้างฐานทัพในเรดซันเพื่อควบคุมอิทธิพลของเรดซัน หลังจากนั้นทางจักรวรรดิเรดซันจึงประกาศให้ตัวเองไม่ยอมรับอิทธพลของอมาริเกย์ นั่นเท่ากับว่าประกาศสงครามกับอมาริเกย์เลยทีเดียว โอซาม่าจึงมีคำสั่งให้ยกทัพไปยังเรดซัน จักรพรรดิแห่งเรดซันจึงมีพระราชโองการให้ยกทัพไปต้านทันที กองทัพเรดซันสามารถทำลายกองกำลังสหรัฐฯทางแปซิฟิคได้ทั้งหมด โอซาม่าจึงคิดว่าในขณะนี้ยังไม่มีใครต่อต้านเรดซันได้ยกเว้นจักรวรรดิยูริที่ไม่เป็นมิตรกับใครทั้งนั้น แต่ก็ยังให้คงกองกำลังไว้รอบๆเรดซัน เรดซันจึงยกทัพไปขับไล่กองทัพอมาริเกย์ให้กลับประเทศทั้งหมด เหตุการณ์นี้ทำให้สหประชาชาติประนามจักรวรรดิเรดซันอย่างหนักจนถึงขั้นคว่ำบาท แต่ก็มีประเทศที่ไม่ทำตามนี้เช่น จีน(เจ็บแล้วไม่จำ),สหภาพโซเวียต,อีห่าน,ซาอุดิอาระเมียและจักรวรรดิยูริ เพราะประเทศเหล่านี้มีความคิดที่จะก่อสงครามต่อต้านอเมริกาอยู่แล้ว
การเกณฑ์กำลังทเห่อของฝ่ายคอมมิวนิสต์[แก้ไข]
จักรวรรดิเรดซันได้มีการเกณฑ์คนและรับสมัครทเห่อทั่วจักรวรรดิ จึงได้กำลังทเห่อมากว่าล้านคน มีการฝึกวิชาหูหนักแล้วก็กังฟู สมาธิ พลังจิต ฯลฯ แล้วใช้วิธีต่างๆที่ทำให้ทหารมีความฮึกเหิมอยู่ได้ตลอดสงคราม แล้วเตรียมเครื่องบิน C-665 2,000 ลำ,N-320 1,000ลำ,และGN-125 800 ลำ เรือบรรทุกเครื่องบิน 25 ลำ(บางลำยาวถึง 1 กิโลเมตร) เรือรบอเนกประสงค์ 60 ลำ และเรือดำน้ำ 72 ลำ เรือจำนวนหนึ่งในสามของเรือทั้งหมดติดขีปนาวุธแบบSLBM ต่อมาก็มีการเคลื่อนทัพไปยึดเกาะกวมทำให้อมาริเกย์ของขึ้น(แต่สงครามครั้งนี้เรดซันต้องสนธิสัญญาขอเดินทัพผ่านดินแดนของศาสนจักรไอดอลนาลีสท์ด้วย เพราะเส้นทางเดินทัพทางทะเลพาดผ่านศาสนจักร)
สังเกตว่าเรดซันได้ทุ่มกำลังในสงครามนี้เป็นจำนวนมาก ยุทโธปกรณ์ทั้งหลายแหล่ข้างต้นนั้นถูกผลิตจนครบในเพียง 5 ปีเท่านั้น เรดซันจึงทำลายสถิติเวลาการผลิตยุทโธปกรณ์เรียบร้อย(สถิติเดิมคือจักรวรรดิยูริ ผลิตเรือดำน้ำและรถถังสะกดจิตรวมแล้ว 340 คันโดยที่ต้องใช้เวลา 8 ปี) ทำให้เงินในท้องพระคลังของเรดซันเริ่มร่อยหรอลงมาก อย่างไรก็ตาม เรดซันไม่ได้กังวลถึงเรื่องนั้น
จีนก็มีการเกณฑ์ทเห่อนับล้านคนไปบุกอมาริเกย์ด้วย เนื่องจากต้องช่วยเรดซันรบตามสนธิสัญญาต่อต้านความงี่เง่า และล้างแค้นที่จีนส่งสินค้าอย่างว่าไปขายนอกประเทศไม่ได้(เพราะถูกสหรัฐอมาริเกย์กีดกัน)(ดูหูจินเทา) คราวนี้จีนจึงสร้างเรือเจิ้งเหอขึ้นมา 50ลำเพื่อเป็นเรือขนเสบียงจำนวนมากไปยังอมาริเกย์
สหภาพโซเวียตนำกำลังไปรบแก้หน้าหลังจากครั้งที่แล้วยึดไม่ได้ ในครั้งนี้โซเวียตนำรถถังแมงโม้ไปรบ(อย่าลืมว่าประเทศอื่นไม่ใช้รถถังเลย) แล้วก็นำคิรอฟไป 90 ลำและเรือบรรทุกเครื่องบินลำเดียว(เนื่องจากโซเวียตเห็นว่าสงครามนี้ไม่สำคัญเท่ากับสงครามล้มยูหลบ เรือบรรทุกเครื่องบินอีกหลายลำที่มีจึงถูกนำไปใช้ในสงครามดังกล่าวเป็นส่วนใหญ่) นอกจากนี้ยังนำรถถังติดขีปนาวุธแบบ KNG แต่นำทเห่อไปรบแค่แสนกว่าคนเอง(เป็นที่น่าสังเกตว่าโซเวียตไม่ค่อยส่งกองทัพมาร่วมในสงครามนี้สักเท่าไหร่ คาดว่าโซเวียตต้องแบ่งกำลังไปรบในสงครามล้มยูหลบ อีกด้วย)
จักรวรรดิปังย่านำเรือซิลเวียกว่าห้าสิบลำลำไปรบที่อมาริเกย์ ในฐานะพันธมิตรของสหภาพโซเวียต ภายใต้การนำของสองนายพลผู้ยิ่งใหญ่ นั่นคือพ่อของคูและเจ๊เซมีเมีย(เป็นผู้หญิง จะเรียกว่า นางพลดีมั้ย)
จักรวรรดิวิเกรียนนครได้สร้างกองเรือที่ใหญ่เกือบๆจะที่สุดในโลก เพื่อเคลื่อนทัพไปรวมกับเรดซันที่เกาะกวม
กำลังของสหรัฐอมาริเกย์และพันธมิตร[แก้ไข]
สหรัฐอมาริเกย์ ได้เกณฑ์ทหารอย่างเร่งด่วนในแต่ละรัฐจนมีทเห่อจำนวน เหยียบล้านคน นอกจากนี้ยังมีการต่อเรือแบบเร่งด่วน ได้แก่เรือประจัญบาน 52 ลำ ติดขีปนาวุธแบบ RKK เรือรบอเนกประสงค์ 88 ลำ และเรือลาดตระเวนหนัก 120 ลำ ในนั้นมีเรือธงอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ทางด้านกองทัพอากาศยังผลิตเครื่องบินจำนวน 500 ลำ ติดขีปนาวุธแบบ SLUM และ OIK อยู่ในลำเดียวกัน และยังมีมนุษย์บิน(Rocketeer) จำนวนกว่าแสนคน(สังเกตว่าอมาริเกย์ไม่ได้ผลิตยุทโธปเกรียนมากนักเมื่อเทียบกับของฝ่ายโซเวียตรวมกัน เนื่องจากอมาริเกย์วางใจว่ายูริจะส่งยุทโธปเกรียนมาร่วมด้วย)
สหรัฐอมาริเกย์คิดว่าในสงครามนี้ตนเองจะไม่เป็นฝ่ายรุกเนื่องจากทางฝ่ายคอมมะนิดได้เตรียมกำลังในการรุกไว้แล้ว สหรัฐจะเป็นฝ่ายรับแทนโดยตั้งกำลังไว้ตามมลรัฐชายฝั่งต่างๆ ในมหาสมุทรแปลิปสติกด้วยความที่สหรัฐยังไว้วางใจยูริอยู่ จึงอนุญาตให้ยูริตั้งฐานทัพรอบๆ มหาสมุทรแปลิปสติกได้ (ทำให้ยูริสามารถเข้าครอบครองทวีปอเมริกร๊วกเหนือได้เกือบทั้งทวีป ในช่วงปลายสงคราม) ทำให้สหรัฐสามารถต้านทัพของคอมมะนิดในช่วงแรกๆ ได้ แต่ในช่วงหลังๆ ก็ล้มเหลวเพราะโซเวียตและเรดซันเริ่มส่งกำลังที่เหนือกว่า ทำให้คอมมะนิดสามารถทะลวงเข้าไปในอมาริเกย์ได้อย่างลึกและเร็ว
![]() |
การเคลื่อนทัพและการรบของฝ่ายคอมมิวนิสต์[แก้ไข]
ทุกประเทศดังกล่าวได้นำทัพมารวมกันที่เกาะกวม ยกเว้นโซเวียตที่ทำเรื่องขอเคลื่อนพลผ่านสแกนดิเนเวียแล้วขึ้นฝั่งที่นิวฟันด์แลนด์ ที่เกาะกวม กองกำลังที่มารวมกันนั้นมากมายจนไม่สามารถมารวมกันที่เกาะกวมเพียงที่เดียว ทเห่อบางส่วนจึงอยู่บนเรือ ที่นี่เป็นจุดประชุมพล ผลการประชุมออกมาว่า
![]() |
ถ่ายทอดคำสั่งลงไปว่า ให้กองทัพเรือปังย่าแยกเป็นสองทางทางแรกให้พ่อของคูนำทัพไปตีฮาวาย200,000คน อีกทางให้เซมีเมียนำกองเรือปังย่าที่เหลือไปบุกอ่าวซาน ฟรานซิสโก ทำลายสะพานโกลเด้นเกต แล้วตั้งมั่นอยู่ที่เกาะอันเคยเป็นที่ตั้งของเรือนจำที่แน่นหนาที่สุดของอมาริเกย์ ส่วนทัพเรดซันให้หลี่เสี้ยนนำทัพเรือตีซีแอทเทิลให้แตกแล้วตั้งมั่นอยู่ที่นั่น ให้ซุนเฟิงอวิ้นนำกองบินทั้งหมดไปยึดArea 51แล้วตั้งมั่นอยู่ที่นั่น ทัพจีนให้หวางเหยียนเจ้านำกองเรือเจิ้งเหอไปที่มิดเวย์ก่อน แล้วจัดเสบียงให้เรียบร้อยแล้วเคลื่อนไปลอสแองเจลลีส ให้จูเซี่ยงนำทัพทั้งหมดบุกตีลอสเองเจลลีสให้แตกเร็วที่สุด ตั้งมั่นอยู่ที่นั่นจนกว่ากองเรือเจิ้งเหอมาถึงแล้วค่อยยกทัพไปตีลาสเวกัส ให้ท่านราเชนทรวรมันนำทัพวิเกรียนฯบุกเข้าทางรัฐออรีกอน ตีเมืองเอกของรัฐนี้ให้แตกแล้วครอบครองรัฐนี้ทั้งรัฐ ส่วนแผนอื่นๆให้ไปตกลงกันเอาเองก็แล้วกัน | ![]() |
ด้วยความอ่อนแอของสหรัฐอมาริเกย์ทุกสิ่งจึงเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ไม่มีทัพอมาริเกย์ทัพไหนที่สามารถต่อต้านได้เลย กองทัพทั้งหมดจึงเคลื่อนไปทางตะวันออกได้เรื่อยๆ จนฝ่ายคอมมิวนิสต์สามารถครอบครองลุ่มแม่น้ำมิสซูรีได้ทั้งหมด ส่วนทเห่อเรดซันบางคนก็ลงเรือไปหาเจ้าศักดินาคนหนึ่งที่เตโอติอัวกัน(เจ้าศักดินาคนนี้เป็นเจ้าประเทศราช) เพื่อให้นำทัพยึดลุ่มแม่น้ำมิสซิซิปปีทั้งหมด ซึ่งก็สำเร็จ ทัพเรดซันสามารถยึดลุ่มแม่น้ำมิสซิซิปปีได้ทั้งหมด
ส่วนทางโซเวียตก็บุกนิวยอร์คได้ จากนั้นจึงถล่มอาคารเพนตากอนจนเละเป็นซาก แล้วก็บุกไปถึงบอลติมอร์ ฟิลาเดลเฟียได้ แล้วฟิลาเดลเฟียก็เป็นที่ประชุมพลเพื่อเข้ากรุงวอชิงตัน DC ซึ่งแผนก็คือ
![]() |
ให้ล้อมเมืองเอาไว้แล้วเมื่อกระถางคบเพลิงของคอมมิวนิสต์ถูกจุดขึ้น ให้ยกทัพทั้งหมดเข้าตะลุมบอนทันที | ![]() |
ซึ่งก็สำเร็จอีกตามเคย เพราะคู่ต่อสู้มันอ่อน จากนั้น ประธานาธิบ่เลวดูแกนซึ่งกำลังหมดน้ำยาเนื่องจากวัย 86 ปีแล้ว ตัดสินใจยิงตัวตายต่อหน้าทหารโซเวียต และบ้ารัก โอซาม่าก็ถูกนำไปขัง ฝ่ายคอมมิวนิสต์จึงชนะเด็ดขาด แต่เดี๋ยวก่อน!ชาวอมาริเกย์ยังเหลือเดนอยู่ที่อลาสกา โซเวียตจึงประกาศให้อมาริเกย์ยอมจำนนแล้วจะไม่โจมตีอลาสก้า ในที่สุด อลาสก้าจึงกลายเป็นเขตปกครองตนเองของอมาริเกย์ ส่วนสหรัฐอมาริเกย์ที่อยู่ทางใต้นั้นได้กลายเป็นของจักรวรรดิยูริ รวมทั้ง เม็กซิเกรียน ด้วย
(แต่กลับกลายเป็นความผิดพลาดในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สี่ เนื่องจากตอนที่ยูริ พลังจิต ได้เสียชีวิตลง จักรวรรดิยูริได้อ่อนกำลังจนไม่สามารถแผ่อิทธิพลไปยังทวีปอเมริกร๊วกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้อมาริเกย์ที่เหลือเดนอยู่ที่อลาสก้าได้แผ่อำนาจลงมาปกครองทวีปอเมริกร๊วกเหนือทั้งทวีป และก็เข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ จนกองกำลังทำลายโลก ได้อุบัติขึ้นในที่สุด)
จักรวรรดิยูริเข้าชุบมือเปิบ[แก้ไข]

ดูบทความหลักที่ การทัพเตโอติอัวกัน
ยูริ พลังจิต ได้เป็นห่วงว่าการขยายอิทธิพลของเรดซันในครั้งนี้แล้ว อาจทำให้กำลังของเรดซันเข้มแข็งเกินกว่าที่ยูริจะต่อกรได้ ในขณะนั้นกองกำลังยูริประจำภาคแปซิฟิก เมื่อเทียบกับเรดซันแล้วถือว่าไม่สามารถต่อกรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยูริจึงทำการยึดเมืองชายฝั่งทะเลต่างๆ ของอมาริเกย์เพื่อเป็นฐานทัพชั่วคราวในการต่อกรกับเรดซัน
ช่วงสงครามใกล้จบ จักรวรรดิยูริได้ยกพลจำนวนมากมายมหาศาลข้ามช่องแคบแบริ่งเข้ามาในอเมริกร๊วกแล้วรวมพลที่เกรทเลค ไม่นานก็นำกำลังไปยึดที่แวนคูเวอร์ วินิเปก ออตตาวา มอนตริออน แล้วก็รัฐมิชิแกน นั่นเท่ากับว่าได้ทั้งพื้นที่ฝั่งตะวันตกและตะวันออกของอเมริกร๊วกเหนือตอนบนได้สำเร็จ เมื่อสงครามในอมาริเกย์ของคอมมิวนิสต์สิ้นสุดลง เมื่อพวกคอมมะนิดได้ข่าวว่ายูริยึดมิชิแกนแล้วก็รู้สึกว่าคงจะปกครองอมาริเกย์ต่อไปอีกไม่เกินหนึ่งปีหรือสองปี ก็จะถูกยูริตีแตกเป็นแม่นมั่น แต่พวกยูริยังไม่พอใจกับดินแดนในขณะนี้ จึงคิดเด็ดหนวดพยัคฆ์ หักเขามังกรอย่างจักรวรรดิเรดซัน
จากการลงนามร่วมกันในสัญญาการส่งกำลังทเห่อเข้าสู่เตโอติอัวกัน ของยูริ พลังจิต และมิคาเอียน แอนโดรปอบ รัฐมนตรวยว่าเกรียนกระทรวงกะลาหักโหมแห่งจักรวรรดิยูริ ทำให้ยูริได้ลำเลียงพลไปยังเตโอติอัวกันเมื่อวันที่ 35½ มีนาพันธ์ ทางเรือ แต่ทว่าการลำเลียงพลครั้งนี้ไม่สะดวกนักเนื่องจากเส้นทางเดินเรือได้เลยเข้าไปในอ่าวไอซ์แคนน่อน ที่มีกองเรือซิลเวียของปังย่าประจำการอยู่ ทำให้ทหารบาดเจ็บเป็นบางส่วน การลำเลียงพลนี้กว่าจะเสร็จสิ้นก็เลยไปอีกวันหนึ่ง ยูริจึงมีคำสั่งให้ทหารเหล่านั้นพักอยู่ชาดหาดที่ยกพลขึ้นบกก่อน โดยหลีกเลี่ยงการปะทะกันกับทหารของเรดซัน แต่โชคร้ายที่ทหารของเรดซันกองหนึ่งได้ลาดตระเวนทำให้ทราบว่ายูริได้ยกพลขึ้นบกแล้ว จึงนำไปกราบทูลต่อไท่จูฮ่องเต้ ไท่จูฮ่องเต้ทรงดำริว่าอย่าเพิ่งทำอะไรตอบโต้กับจักรวรรดิยูริ เพื่อไม่ให้เสียกำลังพลไปเปล่าๆ ปลี้ๆ
วันต่อมาเพื่อคลายความสงสัยดังกล่าว ยูริ พลังจิตได้เจรจากับไท่จูฮ่องเต้ โดยกล่าวว่าการยกพลขึ้นบกครั้งนี้เป็นการส่งกำลังไปยังอมาริเกย์เฉยๆ ไม่ได้มีประสงค์จะปะทะกับกองทัพของเรดซันแต่อย่างใด ทำให้กองทัพยูริพ้นจากการโจมตีของเรดซันไป(ความจริงแล้วยูริได้วางแผนจะรบกับเรดซันที่เตโอติอัวกันเลย แต่ที่กล่าวกับไท่จูฮ่องเต้ไปอย่างนั้นเพื่อหลีกเลี่ยง "ชัยชนะที่มาเร็วเกินไป")
วันต่อมา หลังจากที่กองทัพยูริจำนวน 822,222 คน ได้พักหลังจากที่ยกพลขึ้นเวราครูส ก็ได้เคลื่อนทัพไปที่เทือกเขาแห่งหนึ่งในเวราครูส เพื่อจัดเตรียมการระดมยิงใส่ฐานทัพเรดซันแห่งนี้ในตอนกลางคืน จนกระทั่งตกดึก กองทัพของยูริได้ระดมยิงใส่ฐานทัพเรดซันโดยใช้สารพัดอย่าง เช่น ระเบิดแก๊สน้ำตา, V3 ร็อกเก็ต หรือแม้กระทั่งระเบิดลาบก้อยยังมีเลย การระดมยิงนี้ได้หยุดเมื่อประมาณ 5 นาฬิเกรียน(ตี 5) ในขณะนั้นฐานทัพเรดซันบางแห่งได้เหลือแต่ตอตะโก หลังจากการระดมยิงนี้ได้เสร็จสิ้น เรดซันได้เคลื่อนย้ายทหารออกไปจากที่แห่งนี้โดยด่วน นับเป็นแผนของยูริที่แยบยลมาก
นายทหารคนหนึ่งของเรดซันหลังจากเหตุการณ์นี้ได้กล่าวว่า "ผมเห็นกระสุนปืนใหญ่ลอยมาจากเทือกเขาที่ล้อมฐานทัพเราไว้ มันตกลงที่ที่พักของกองผม ผมได้ยินเสียงระเบิดและควัน และเห็นคนหัวเหม่งๆ ยืนอยู่บนเทือกเขานั้น" จากคำพูดนี้ทำให้เรดซันรู้ว่าผู้ที่ระดมยิงครั้งนี้คือจักรวรรดิยูริ แน่นอน ไม่ผิดเพี้ยน ดังนั้นไท่จูฮ่องเต้ทรงมีพระบัญชาให้ประกาศสงครามกับยูริทันที
ทางฝ่ายจักรวรรดิเรดซันได้ยกทัพจากเตโอติอัวกันไปยังลาปาส เพื่อสกัดทัพยูริทางตะวันตก ทัพยูริแตกพ่ายไม่เป็นกระบวน อ๋องแห่งเตโอติอัวกันยังไม่ให้ฉลองชัย เพราะรู้ว่ายูริจะส่งทัพมาอีก
อ๋องแห่งเตโอติอัวกันมีคำสั่งให้อพยพประชาชนไปยังมอนเต อัลบันในโออาซากาประมาณ100,000คนเพราะมอนเต อัลบันเล็กกว่าเตโอติอัวกันถึงกึ่งหนึ่ง แต่ถึงกระนั้นก็ให้ประชาชนหนีไปยังเขตอาณานิคมมายาได้ แล้วให้จัดเตรียมกองทเห่ออยู่ที่เตโอติอัวกัน แล้วให้สองขุนพลสะท้านแผ่นดิน นั่นคือหลี่เสี้ยนกับซุนเฟิงอวิ้น ร่วมกับสื่อจิ้งจง ไปประจำการที่พิรามิดสุริยัน จันทรา และอสรพิษขนนก ที่ละคนตามลำดับ เพื่อให้สังเกตุการณ์ข้าศึกว่าจะมาถึงเมื่อไร ถ้าเห็นข้าศึกหรือได้รับรายงานเรื่องข้าศึกจะต้องรีบประชุมพลทันที แล้วโจมตีข้าศึกให้แตกพ่ายโดยเร็วที่สุด
เป็นไปตามคาด ทัพยูริยกพลมาถึงเตโอติอัวกันภายในวันเดียว ทัพเรดซันสู้กับทัพยูริอย่างไม่คิดถึงชีวิต สุดท้ายทัพยูริก็แตกพ่ายไปอีกคราวหนึ่ง แล้วไล่ทัพยูริไปถึงทลักส์คาลา แล้วยกพลกลับ พร้อมสั่งเรียกกองกำลังที่อยู่ที่มิสซิซิปปีกลับทั้งหมด แล้วให้จีนครอบครองแทน แล้วจีนก็ตั้งโรงงานผลิตสินค้าละเมิดลิกขะฉิดที่เซนต์หลุยส์
ต่อมายูริก็ยกทัพมาอีก(ใหญ่กว่าเดิม)สามนายพลจึงให้อ๋องที่มอนเตอัลบันส่งทเห่อมาช่วยรบด้วย แต่จเรทัพของมอนเตอัลบันทำหน้าที่ไม่ดี ทัพจึงพ่ายแพ้ จากนั้นเรดซันจึงเริ่มเอาอาวุธสงครามมาถล่มยูริ ยูริจึงถอยไปตีแม็กซิโกซิตี้ก่อน แล้วค่อยตีเตโอติอัวกัน ซึ่งยูริก็คิดถูกเพราะเตโอติอัวกันห่างจากแม็กซิโกซิตี้เพียง30กิโลเมตร สามารถเข้าตีเตโอติอัวกันได้ง่ายโคตรๆเพราะเดินทางไม่ไกล ทเห่อไม่เหนื่อย ซึ่งยูริก็ตีแม็กซิโกซิตี้ได้ไปแบบเมืองร้าง เพราะทเห่อไปอยู่มอนเตอัลบันกับเตโอติอัวกันจนหมด
ยูรินำทัพเข้าตีเตโอติอัวกันและมอนเตอัลบัน ซึ่งมีรบชนะบ้างแพ้บ้าง แต่ก็ยังตีไม่แตก สองเมืองนี้ยังอยู่ ท่านอ๋องได้ส่งหนังสือขอความช่วยเหลือไปยังปาเลงเก เจ้าเมืองปาเลงเกจึงส่งทเห่อไปช่วยอีกแรง ทำให้ทัพยูริต้องล้อมเมืองมอนเตอัลบันและเตโอติอัวกันโดยที่ตีไม่ได้เป็นเวลาถึงสองปี กว่าจะตีแตกได้สำเร็จ จัรวรรดิเรดซันจึงเสียอาณานิคมไปหนึ่งแห่ง แล้วจะต้องไม่มีสองแห่ง แต่ก็เกือบๆแล้วเพราะยูริยังส่งทัพมาตีปาเลงเกอีกเมืองหนึ่ง ทำเขตแดนที่กั้นเรดซันกับยูริเอาไว้พังทลาย อ๋องมายาจึงสั่งให้สร้างกำแพงยักษ์ในช่วงที่ยูริเริ่มถอยกลับไป(ถอยกลับเพราะปล่อยเมืองร้าง ยูริเห็นไม่หนุกเลยขี้เกียจลุยต่อ)ไม่นานนัก กำแพงยักษ์ก็เสร็จสมบูรณ์ ยูริยกทัพมาอีกหมายจะพิชิตมายา แต่ทเห่อที่อยู่บนป้อมและกำแพงรวมทั้งกองทัพอาวุธต่างๆก็สามารถทำลายทัพยูริจนเจ๊งบ๊งแทบทั้งสิ้น ยูริ พลังจิตจึงไม่กล้ายกทัพมาเยือนที่นี่อีกเลย
ยูริ พลังจิตอยากลิ้มรสในชัยชนะของคอมมิวนิสต์ จึงขอแบ่งชัยชนะด้วย พวกคอมมิวนิสต์เห็นแล้วไม่พอใจจึงใช้ปืนยิงยูริ ยูริจึงต้องเสียไอ้นั่นไปอีกข้างหนึ่ง ยูริถูกตอนโดยสมบูรณ์
หลังสงคราม[แก้ไข]
อมาริเกย์ล่มสลาย[แก้ไข]
หลังจากอมาริเกย์โดนรุมจากฝ่ายต่างๆ ในสงครามนี้ ทำให้ความเป็นมหาอำนาจสูญสิ้นไป อมาริเกย์ไม่มีบทบาทบนเวทีโลกอีกต่อไปแล้ว นั่นทำให้ชาติที่มีเศรษฐกิจขึ้นกับอมาริเกย์อีกหลายๆ ชาติถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัวทันที(และไม่มีทางฟื้นแล้ว)
แต่เหตุการณ์ในตะวันหอกกลวงกลับดีขึ้น เนื่องจากอมาริเกย์และมหาอำนาจยูหลบไม่ได้เข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์ในตะวันออกกลวงเลย
![]() |
เป็นไงล่ะไอ้อมาริเกย์ ชอบกล่าวหาว่าตูมีนิวเกรียนดีนัก | ![]() |
ผู้นำอีรัก |
หลังจากจบสงคราม หลายๆ ชาติต่างกล่าวขานถึงความโหดร้ายของกองทัพโซเวียต ที่ถล่มอมาริเกย์แบบไม่ไว้หน้า และก็ยังมีบางชาติคว่ำบาตรสหรัฐอมาริเกย์เป็นช่วงหนึ่งๆ ด้วย
การชุบมือเปิบของเยลโล่ซัน[แก้ไข]
กองทัพเยลโล่ซันได้เข้ามาที่อเมริกากลางหลังจากที่ศึกนี้จบลง เยลโล่ซันได้ใช้ดาวเทียม ASTV ไปติดที่ยอดของพีระไม่มิดมายา แต่เกิดไปโผล่ที่เตโอติอัวกัน นอกจากนี้ประมุขฮันได้ค้นพบรุปปั้นทุจศิลกินชะมัด จึงทำการบูชาด้วยการเอาไปตั้งที่ปราสาทมายาแล้วเอาโกเต๊กปิดหน้า แต่ว่าโกเต๊กไม่ใช่รูปสี่เหลี่ยมทำให้พระเจ้ามูลเมืองพิโรธ ทำให้พีระไม่มิดมายาถล่มภายในพริบตา ทำให้ท่านยูริพิโรธมาก จึงได้เปิดสงครามเยลโล่ซัน-ยูริทันที
การตอบรับของจักรวรรดิเรดซัน[แก้ไข]
จักรพรรดิไท่จูฮ่องเต้เมื่อทราบข่าวว่าเสียเตโอติอัวกันก็เสด็จสวรรคตทันทีด้วยอาการช็อก ว่ากันว่าในวันนั้นได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้น คือเกิดแผ่นดินไหวทั่วจักรวรรดิยูริ หลายคนเชื่อว่าเกจากการพิโรธของไท่จูฮ่องเต้ก่อนสวรรคต เหล่าขุนนางทั้งหลายจึงเลือกสมุหนายกคนที่หนึ่งของเรดซันให้เป็นจักรพรรดิไท่จงฮ่องเต้
สถานการณ์กองทัพสหภาพโซเวียต[แก้ไข]
มิคาเอล โรมานอฟต้องถอนทัพไปช่วยอเล็กซานเดอร์ โรมานอฟในสงครามล้มยูหลบ กองทัพที่อยู่อมาริเกย์ล้วนอ่อนแอลง
ประเทศอื่นๆ[แก้ไข]
ในขณะที่จักรวรรดิยูริต้องถอนทเห่อไปช่วยในศึกNirvana Forceอยู่นั้น ก็เกิดการแย่งชิงอำนาจในการเป็นประธานาธิบดีของแม็กซิโก ระหว่างยัสซีตลาน ชาวมิกซ์เทคซึ่งตั้งตัวเป็นใหญ่ที่มิทลา เควตซัลกวัต ชาวโทลเท็คซึ่งเป็นใหญ่ที่ทูลา และคอร์เตส ชาวสเปนซึงเป็นใหญ่ที่เม็กซิโกซิตี้ ทั้งสามชิงอำนาจกันจนเกิดสงครามกลางเมือง จักรวรรดิเรดซันจึงเข้ามาช่วยทำโพลสำรวจความนิยมเพื่อให้ไฟสงครามยุติ จากการสำรวจตัวอย่าง 10,000 คนพบว่าส่วนใหญ่ชอบเควตซัลกวัต ประชาชนส่วนมากมักเข้าด้วยเควตซัลกวัต เรดซันจึงให้เขามาเป็นประธานาธิบดีของแม็กซิโกและยังให้กลุ่มอื่นๆมาสวามิภักดิ์ จักรวรรดิเรดซันก็ให้อ๋องแห่งมายาสวามิภักดิ์ต่อเควตซัลกวัต เพื่อให้เมโสอเมริกาเป็นปึกแผ่น
อย่างไรก็ตาม การขับไล่ยูริในเม็กซิโกยังมีอยู่(แต่ประชาชนบางส่วนยังอยากให้ยูริมาปกครอง) กอปรกับที่ยูริปล่อยปละละเลยเม็กซิโก ยูริจึงจำใจต้องรองรับเอกราชให้เม็กซิโก ในขณะเดียวกันไฟแค้นของยูริกับเรดซันยังมีอยู่
![]() |
It's such a nice boat!
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Nice Boat ซึ่งรวบรวมทุกอย่างที่เกี่ยวกับเรือ
|