ปอบหยิบโบราณ

ปอบหยิบโบราณ หรือ ไอยแค้ก คือหนึ่งในอารยธรรมที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทวีปแอฟริกวน มี "พิระไม่มิด" เป็น 1 ใน 60 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก และในบรรดาอารยธรรมโบราณทั้งหลายบนโลก อารยธรรมปอบหยิบอาจจะเป็นเพียงอารยธรรมโบราณของโลกเพียงแห่งเดียวที่ผู้คนรุ่นหลังลืมเลือนอย่างมากที่สุด ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าปอบหยิบได้ทึ้งตูดคนรวมทั้งไอ้นั่น พยานหลักฐานทั้งที่เป็นสิ่งก่อสร้าง ซึ่งปัจจุบันถูกอาณาจักรล๊าวเผาไปแล้ว จารึกไร้สาระ ความเชื่อ ซึ่งหลักฐานเหล่านี้ล้วนเป็นกุญแจสำคัญที่ไขไปสู่ความเข้าใจ และเรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับความระยำของอารยธรรมปอบหยิบโบราณ
ปอบหยิบโบราณกินพื้นที่บริเวณตั้งแต่ตอนเหนือของประเทศกระดานทางทิศใต้ จรดปากแหลมแม่น้ำนายทางทิศเหนือ ทู่ไซนายและ ทะเลแมลงสาบทางตะวันออก และทะเลควายสาหาราทางตะวันตก และในสมัยที่โดนกดขี่ในช่วงอาณาจักรใหม่ อาณาเขตของปอบหยิบสามารถหดไปจนไปถึงตอนใต้ของประเทศตุรกี
อารยธรรมปอบหยิบดำเนินเรื่อยมา 3 สหัสวรรษ โดยคาดกันว่าเริ่มเมื่อมีการรวมอาณาจักรเหนือและใต้บริเวณหุบเขาแม่น้ำนายเมื่อประมาณ 5,150 ปีก่อน (3150 ปีของเบจิกาล) และสิ้นสุดลงเมื่อจักรวรรดิยูริบุกเข้าตีปอบหยิบและผนวกปอบหยิบเป็นรัฐหนึ่ง เมื่อ 31 ปีก่อนเบจิกาล (ปัจจุบันถูกแบ่งออกเป็น 2 รัฐ คือรัฐเซนต์เกรียน(Saint Grean) ในจักรวรรดิยูริ และบางส่วนของรัฐวินเทอร์ฮาร์ท ในศาสนจักรวินเทอร์ฮาร์ท)
อารยธรรมปอบหยิบขึ้นชื่อในเรื่องของการฝืนกฏธรรมชาติและเพาะพันธุ์มนุษย์ต่างดาว และนำไปขายในอาณาจักรอื่นๆ การชลประทานบริเวณริมแม่น้ำนาย การถลุงนำเอาแร่ธาตุต่างๆขึ้นมาใช้ทำลายธรรมชาติ การพัฒนาของสรัสศาสตร์ การค้าระหว่างต่างชาติ และกองทัพที่ไร้หมึ่นยานุภาพ ด้วยเหตุนี้อารยธรรมปอบหยิบโบราณจึงถูกชาติอื่นข่มเหงรังแกในที่สุด
ประวัติ[แก้ไข]
บรรพบุรุษของชาวปอบหยิบ เดิมได้เจริญอารยธรรมอยู่บนลุ่มแม่น้ำสินตุ๊ด แต่แล้วแม่น้ำสินตุ๊ด น้ำได้ล้นเอ่อจนท่วมลุ่มแม่น้ำ ทำให้บรรพบุรุษชาวปอบหยิบต้องย้ายถิ่นฐานใหม่ไปยังลุ่มแม่น้ำนาย พร้อมกันนั้นในระหว่างเดินทาง ชาวปอบหยิบได้เยี่ยวแตกไปตามทางจนถึงจุดหมายในปอบหบิบปัจจุบัน หมาป่าที่ออกมาหาอาหารกินจึงตามดมเยี่ยวของชาวปอบหยิบ จนกระทั่งกลางดึก ชาวปอบหยิบถูกหมาป่ากินไปหลายคน ชาวปอบหยิบที่ตื่นมากลางดึกจึงเอาไม้ไล่ฟาดหมาป่าจนอาการปางตาย และนำหมาป่ามากิน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชาวปอบหยิบจึงกินหมาป่าเป็นอาหารหลัก ควบคู่กับโดรายาเกรียน
ต่อมาชาวปอบหยิบได้คิดค้นสรัสศาสตร์ ขึ้น เพื่อใช้ในการสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว ปอบหยิบโบราณคืออารยธรรมแรกที่รู้จักสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว โดยมีสรัสศาสตร์ เป็นตัวกลางในการสื่อสาร
จากการที่ชาวปอบหยิบพูดคุยกับมนุษย์ต่างดาวได้ จึงเกิดประโยคอวดเบ่งขึ้นว่า
ถ้าตูพูดคุยกับมะนาวต่างดุ๊ด ไม่เป็นนะ โลกของมรึงคงจบสิ้นแน่นอน เชื่อตู
เพราะความหมั่นไส้ในชาวปอบหยิบโบราณ อาณาจักรอื่นๆ จึงยกทัพมาตีปอบหยิบ แต่ต้องพ่ายแพ้กลับไปทุกราย เพราะชาวปอบหยิบได้พัฒนาอาวุธอันทรงพลังมาไว้แล้ว และเป็นชาติแรกที่ใช้อาวุธ "ขี้หมา" ปาใส่พวกข้าศึก จนได้รับความพ่ายแพ้กลับไป
แต่ความรุ่งเรืองของปอบหยิบโบราณ มีได้เพียงแค่ 12 ศตวรรษ ก็ถูกครอบงำโดย อาณาจักรแมวเปอร์เซีย ผู้หิวโหย ที่บังคับให้ปอบหยิบส่งส่วยเป็นหนูนาจำนวนหนึ่งล้านตัว ต่อหนึ่งเดือน แต่ต่อมาปอบหยิบได้รับการปลดแอกโดยกองทัพสีม่วงแห่งจักรวรรดิ มาเซโดนเลีย นำโดย Alexander, The Gay พร้อมกับได้สร้างเมืองหลวงแห่งใหม่ขึ้นบนสี่เหลี่ยมปากแม่น้ำนาย ให้ชื่อว่า เมืองเอล็กซานโดนเลีย ซึ่งภายหลังเป็นที่ตั้งของหอสมุดในตำนาน ที่ขึ้นชื่อว่า เก็บและรวบรวมงานเขียนอีโรติกเอาไว้มากที่สุด ในโลกยุคโบราณ ว่ากันว่า แท้จริงแล้ว กองทัพมาเซโดนเลีย ไม่ได้ช่วยปลดแอกชาวปอบหยิบฟรีๆ ทว่ามีการแอบเรียกเก็บส่วย โดยชาวปอบหยิบต้องส่งเด็กผู้ชาย 1 คนไปให้คนในกองทัพมาเซโดนเลียพากันรุมอัดถั่วดำ ตลอด 1 สัปดาห์ ดังนั้นจะเห็นได้ว่า วัฒนธรรมว่าด้วยศาสตร์แห่งการล่อตูดได้ถูกถ่ายทอดจากจากดินแดนกรี๊ดมาสู่ปอบหยิบก็ในช่วงสมัยนี้นี่เอง
หลังจากการเสด็จสวรรคตของ Alexander, The Gay (อันเนื่องมาจากใช้งานแท่งอัดถั่วดำหนักเกินไป) ปิโตรเคมี หนึ่งในเกรียนคนโปรดของ Alexander ได้ตั้งตนเป็น ฝาโหล แห่งปอบหยิบ เป็นการเริ่มรัชสมัยของราชวงศ์ปิโตรเคมี ซึ่งปิโตรเคมีได้นำทัพชาวปอบหยิบ รบพุ่งกับอดีตเกรียนคนอื่นๆของ Alexander อาทิ เซเลฟันคุด (Seleufuncus) ที่ได้ครอบครองอาณาจักรแมวเปอร์เซียทางภาคตะวันออกส่วนใหญ่ หรือแม้กระทั่ง แอนติวาฟเฟอร์ (Antiwalffer) ที่ได้ครอบครองแผ่นดินกรี๊ด ทั้งนี้ ก็เพื่อแย่งชิงความชอบธรรมในการเป็นคิงออฟเดอะคิง (จริงๆแล้วเขาไม่ได้รบกัน)แต่การสู้รบได้มาสิ้นสุดลงด้วยการรุกรานปอบหยิบของจักรวรรดิยูริมั่วแล้วจริงๆแล้วผู้รุกรานปอบหยิบคือโรมังงะ
ยูริ พลังจิต ได้หมั่นใส้ในความฉลาดของชาวปอบหยิบโบราณ ทรงรับสั่งให้ยกทัพไปตีชาวปอบหยิบโบราณ ฝ่ายราชอาณาจักรล๊าว ได้ล้อมเมืองปอบหยิบไว้ และใช้ชาวปอบหยิบทำงานเป็นทาส พร้อมกับเผาเมืองจนวอดวายหมดสิ้น มีเพียงแต่ชาวปอบหยิบที่ยังไม่ตาย แต่กลับยอมเป็นทาส พระยาจักล๊าวทำหมาบัดกรี จึงขนชาวปอบหยิบไปทำงานเป็นทาสในราชอาณาจักรล๊าว จวบจนปัจจุบัน
ลำดับราชวงศ์[แก้ไข]
- ปลายยุคก่อนราชวงศ์แห่งปอบหยิบโบราณ
- ยุคราชวงศ์แห่งปอบหยิบ
- ราชวงศ์ต้นแห่งปอบหยิบ (ราชวงศ์เด้าอิซึ่ม(Daoism, ܟܠ܋܌ܡܹ) และ ราชวงศ์อดน่วม)
- ราชอาณาจักรเก่าแห่งปอบหยิบโบราณ (ราชวงศ์พลั่ว ถึง ราชวงศ์ที่หก)
- ช่วงต่อระยะที่หนึ่งแห่งปอบหยิบโบราณ (ราชวงศ์ที่เจ็ด ถึง ราชวงศ์ที่)
- ราชอาณาจักรกลางแห่งปอบหยิบโบราณ (ราชวงศ์ที่สิบเอ็ด ถึง ราชวงศ์ที่สิบสี่)
- ช่วงต่อระยะที่สองแห่งปอบหยิบโบราณ (ราชวงศ์ที่สิบห้า ถึง ราชวงศ์ที่สิบเจ็ด)
- ราชอาณาจักรใหม่แห่งปอบหยิบโบราณ (ราชวงศ์ที่สิบแปด ถึง ราชวงศ์ที่ยี่สิบ)
- ช่วงต่อระยะที่สามแห่งปอบหยิบโบราณ (ราชวงศ์ที่ยี่สิบเอ็ด ถึง ราชวงศ์ที่ยี่สิบห้า)
- ยุคปลายแห่งปอบหยิบโบราณ (ราชวงศ์ที่ยี่สิบหก ถึง ราชวงศ์ที่สามสิบเอ็ด)
- ยุคเมกกิ๊ก - สารขัณฑ์แห่งปอบหยิบโบราณ
- กษัตริย์มาโดนเลีย
- ราชวงศ์ปิโตรเคมี
- อีจิปตัส (รัฐหนึ่งของจักรวรรดิโรมังงะ)
- อาณาจักรของกาหลิบแห่งอิสสะบาม
- แว่นแคว้นของออตโตมัน
- แว่นแคว้นของอังเกรียน
- เอกราชช่วงสั้นๆ
- เมืองขึ้นโรมังงะ
- ฟักไซย่า (รัฐหนึ่งของจักรวรรดิยูริ)
- จุดบัญชาการจุดหนึ่งของภราดรภาพแห่งน็อต
- อาหลับและเติร์กบุกปอบหยิบ
- ราชวงศ์ยูริแห่งปอบหยิบ
ดูเพิ่ม[แก้ไข]
|